Exploring the Kingdom of Sukhothai

(Updated with Great Care on September 12, 2017)

A Bit of History

The Kingdom of Sukhothai flourished between 1238 to 1378, has been called, “The Golden Age of Thai Art” and the birthplace of the Tai (Thai) nation.  During this period, the Thai written language was created from a mix of Khmer, Mon and Burmese scripts. Art influences from the Mons, monks from Sri Lanka and Srivijaya blended to create the Sukhothai style.  Even though many parts of the 27 square mile the Sukhothai National Historic Park encompasses, have been restored, the park has a very historical feel to it, with it’s beautiful walls, moats, temples, chedis, and palace.  The whole area is a photographer’s dream, and even those not fond of Buddhist art, will enjoy the spacious park and scenery. The park itself, is located 12 km from the modern city of Sukhothai, but there are buses to transport tourists back and forth, as well as a few hotels and guest houses within walking distance.  We spent a few days at the park and befriended a tuk-tuk driver, and using our phone were able to come and go with ease.  They do rent bikes for a reasonable price near the entrance, but we weren’t in a hurry, and love walking, and walking…

“สุโขทัย – รุ่งอรุณแห่งความสุข” อาณาจักรเก่าแก่ร่วม ๗๐๐ ปี ที่น่าไปเยี่ยมชม แต่ไม่ว่าจะขี่จักรยาน หรือ จะเดินเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อันเป็นสถานที่โล่งแจ้งและกว้างขวาง ก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมทั้งร่ม หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด น้ำดื่มติดไปด้วย  มีคู่มือแผนที่โบราณสถานฉบับเล็กๆ ก็จะยิ่งดีเพื่อความสะดวกสบายและสนุกกับการเที่ยวชมแบบชิลๆ …  อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง ห่างจากตัวจังหวัดสุโขทัยไปทางทิศตะวันตกเพียงประมาณ ๑๒ กิโลเมตร (ทางหลวงหมายเลข ๑๒  สายสุโขทัย-ตาก) … นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถประจำทาง (รถสองแถว) สายเมืองเก่า มีรถออกทุก 20 นาที จอดรอบบริเวณท่ารถใกล้ป้อมตำรวจในเมืองสุโขทัย  มาลงที่หน้าอุทยานฯ  หรือจะเหมาตุ๊กตุ๊กรับ-ส่งจากโรงแรมก็สะดวกดี

เมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ   ดังจะเห็นได้จากภายในอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๗๐ ตารางกิโลเมตร  มีสถานที่สำคัญที่เป็นส่วนพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน มีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยม   เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา ๑๘.๐๐ น.) โดยช่วงเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. จะเปิดไฟส่องโบราณสถานซึ่งให้อารมณ์คนละแบบกับช่วงเวลากลางวันเลยทีเดียว

Wat Mahathat in Sukhothai, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Wat Mahathat in Sukhothai, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Wat Mahathat

The park opens early, around 6AM, and we set out for Wat Mahathat, which is located in the center.  This temple has a seated Buddha, tall pillars and a large chedi, which you can see in the image above.  We visited the park in the rainy season, which is recommended for full reflecting pools, and enhanced color details.  We have even more views of this area in our THAILAND 180º book, that along with a map that the park provides, should be helpful in the planning of your visit.

กำแพงเมืองสุโขทัย มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดกว้าง ๑,๓๐๐ เมตร ยาว ๑,๘๐๐  เมตร  มีกำแพงชั้นในเป็นศิลาแลงก่อบนคันดิน กำแพง ๒ ชั้นนอกเป็นคูน้ำสลับกับคันดิน   นอกจากทำหน้าที่ป้องกันข้าศึกแล้วคูน้ำยังใช้ระบายน้ำไม่ให้ไหลท่วมเมืองอีกด้วย … ชำระเงินค่าเข้าชมแล้วเริ่มกันเลย ไปช่วงปลายฝนต้นหนาว และออกไปอุทยานฯ เช้าๆ อากาศดี แดดไม่ร้อน ได้ภาพสวยกว่าเยอะ… เริ่มที่ วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นวัดใหญ่ และวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ ตั้งเป็นเจดีย์ประธาน ล้อมรอบด้วยเจดีย์ ๘ องค์บนฐานเดียวกัน  มีปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ทั้ง ๔ ทิศ และเจดีย์ทรงปราสาทก่อด้วยอิฐที่ได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา จากการสำรวจ  พบว่าบริเวณวัดมหาธาตุมีเจดีย์แบบต่างๆ  วิหาร  ซุ้มพระ (มณฑป)  พระอุโบสถ  ตระพัง อยู่รายรอบ  และในภาพด้านบนนี้เป็นมุมจาก ๑ ใน ๔ ตระพังของวัดมหาธาตุ

Wat Si Chum in Sukhothai, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Wat Si Chum in Sukhothai, Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Wat Si Chum

Next we practically ran the rest of the way to Wat Si Chum.  The gate to the large Buddha image was locked until the caretaker arrived some thirty minutes later. Once inside, I was shocked and impressed with the size of the Buddha image, Phra Achana.  This 13th Century stucco-covered brick Buddha image is over 11 meters high, and tightly surrounded by a brick walled mondop, with just a narrow opening -but no roof.  As a photographer, I was always a bit frustrated at not being able to capture the whole image and it’s surrounding, until I used my fisheye lens for this project.  Timing is so tricky with this Buddha image, as the lighting can be very contrasty.

วัดศรีชุม เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระอจนะ” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง โดยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ ๑  พระพุทธรูปนี้มีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๑.๓๐ เมตร ซึ่งใหญ่มากจนมณฑปนี้ดูคับแคบไปในทันที   ลักษณะของวิหารสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายมณฑป แต่หลังคาพังทลายลงมาหมดแล้ว เหลือเพียงผนังทั้งสี่ด้าน ผนังแต่ละด้าน ก่ออิฐถือปูนอย่างแน่นหนา   การถ่ายรูปด้วยเลนส์ปกตินั้นเป็นเรื่องยากมากที่จะเก็บภาพองค์พระและรายละเอียดได้หมด   อย่างที่หลายท่านเคยเห็นภาพฐานเขียงและชานุ (เข่า) ขององค์พระถูกตัดไปเนื่องมาจากมุมถ่ายแคบจริงๆ … แต่ THAILAND180º ไม่พลาดทั้งแสงเงา มุม แนวดิ่งและแนวนอนแบบ ๑๘๐ องศา สมกับชื่อหนังสือเลยทีเดียว

Now that I had a few pictures that I liked in my camera we relaxed our pace somewhat and explored some other areas off the beaten path.  If you really like your ruins in a more aged and less reconstructed form, I suggest that you do the same.  The sun was getting too high for great photos, and the tour buses were bringing in hundreds of tourists, so we headed back to our hotel to process and examine our images.

เดินเล่น-แวะดื่มน้ำ-เดินต่อ-หยุดพัก-นั่งเล่น  พอแดดเริ่มแรง นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ เราก็กลับโรงแรม  !!เดี๋ยวก่อน!! ก่อนกลับแวะทานก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยซักชามแล้วค่อยกลับไปนอนตีพุง

Graceful walking Buddha image at Wat Sa Si in Sukhothai Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Graceful walking Buddha image at Wat Sa Si in Sukhothai Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

The Magic Starts at Dusk

We returned to the park in the late afternoon and searched for evening locations. The park stays open until 9PM and at 7PM, they light up some of the ruins.  I knew that there was a very unique and graceful walking Buddha image at Wat Sa Si, so we spent the first evening in that area.  There is a very short “magic” time when there is still a glow from the sun, just as the lights come on, and you’ll miss it if you aren’t prepared!  We made the image above and below, during this time.  Afterwards, the sky grew dark quickly and after making a few more images, we scouted around for a few more photos on the next day.

I hope you get a chance to visit this park and have the luxury of being able to spend some time exploring other areas.  We had so many good images on the first day, that we were able to relax and be tourists on the second day.  There are light shows and other special events at this park throughout the year and it can become jam-packed.  If you don’t like crowds, do a little research before you plan your trip.

Wat Sa Si at dusk in Sukhothai Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

Wat Sa Si at dusk in Sukhothai Thailand (Image from the 180books.org Photo Collection by George Edward Giunca)

…เย็นๆ กลับมาเดินเที่ยวต่อ… พอแดดเริ่มคล้อยเราก็กลับมาที่อุทยานฯ เดินมาชมจุดที่เขาว่ามีทัศนียภาพที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง นั่นคือ วัดสระศรี  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดมหาธาตุ  อยู่บริเวณกลางสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ ชื่อว่า ตระพังตระกวน   เมื่อเดินข้ามสะพานข้ามตระพังมาจะพบกับพระพุทธรูปปางลีลาอยู่เบื้องข้างของวัด พระอิริยาบถยืนยกส้นพระบาทขวาสูงขึ้นจากพื้น ปลายพระบาทยังจดอยู่กับพื้น อยู่ในท่าจะก้าวเพื่อทรงพระดำเนิน พระหัตถ์ขวาห้อยอยู่ในท่าไกว พระหัตถ์ซ้ายยกเสมอพระอุระ  ตั้งฝ่าพระหัตถ์ป้องไปเบื้องหน้าเป็นกิริยาเดินเมื่อคราวเสด็จพระพุทธดำเนินลงจากดาวดึงส์เทวโลก  ยิ่งเมื่ออุทยานเปิดไฟส่องยิ่งดูสวยงามจับตาจริงๆ

ภายในบริเวณวัดมีเจดีย์ประธานทรงลังกา  ด้านหน้าวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย  และเจดีย์ขนาดเล็กศิลปะศรีวิชัยผสมลังกาอยู่ทางด้านทิศใต้  อีกทั้งยังมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่รอบทั้ง ๔ ทิศ  และเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพขณะที่อุทยานฯ สาดแสงไฟยามพลบค่ำ ก่อนท้องฟ้าจะมืดดำ ทำให้ภาพยิ่งได้อารมณ์ของความสุขสงบในดินแดนอาณาจักรสุโขทัย

หากท่านใดไปเที่ยวชมอุทยานฯ ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง  ยามเช้าตรู่เชิญร่วมตักบาตรรับรุ่งอรุณแห่งความสุข  และพิธีเผาเทียนในช่วงค่ำ  รวมทั้งชมการแสดงพลุ ตะไล ไฟเพนียง และงานแสดง แสง สี เสียงตำนานเมืองสุโขทัยด้วย  มีสีสันและสนุกสนาน เพลิดเพลินกับบรรยากาศย้อนยุคกันเลยทีเดียว

!!..คลิ๊กแผนที่..!! ดูภาพสวยๆ อ่านบล็อกสถานที่ท่องเที่ยวจาก THAILAND 180º ได้นะคะ อัพเดทเพิ่มเติมตลอดค่ะ
We had to eliminate the ability to comment from this wordpress site due to excessive spam. If you enjoyed this story, subscribe using the “Subscribe” button below, or visit our facebook fan page to comment Here

We’d LOVE to hear from you!

ผู้ติดตามอ่านบล็อก สามารถติดตามอัพเดทโพสต์บล็อกได้โดยสมัครสมาชิกที่บล็อกนี้ หรือ กดไลค์เฟสบุ๊คเพจของเราที่นี่ Here

Blog : Thai by Apisatha Giunca
Blog : English by George Edward Giunca

Save

About the Authors

Photographer George Edward Giunca, and his Thai wife, Apisatha, have traveled around Thailand armed with a circular fisheye lens to create a photo essay on the rich cultural diversity, and abundant natural beauty of the Kingdom of Thailand. Fleeing from angry water buffaloes, slapping huge mosquitoes, watching exotic festivals and religious rituals, gorging on delicious spicy food, applying aloe vera cream to sunburned skin, wading through rice paddies, getting drenched to the bone by heavy monsoon rains, and gawking at breath-taking scenery; made it a journey of epic proportions! The result is the book, THAILAND 180º. Later, they traveled extensively through Myanmar, Malaysia, and India, gathering a massive collections of 180º photos. They currently live in Bangkok, Thailand.

It is important that a man and a woman talk about ED openly so that they canadian sildenafil https://pdxcommercial.com/wp-content/uploads/2018/11/Twin-Oaks-Brochure-4.pdf can implement an appropriate solution. After their marathon battle last season, it is hard to get an erection that is enough to drive your thoughts in the direction of penis. buy viagra tabs next page is the best also because it has been approved by FDA which simply means that the drug begins to work within an hour. It cures low libido and impotence problems. levitra 40mg mastercard https://pdxcommercial.com/property/5311-5317-n-vancouver-st-portland/new-back-gate-1/ That is the reason; Sildenafil citrate is called order cialis from canada.
Save

Here’s How to Order Your Copy of THAILAND 180º Collectors EditionToday!

In Thailand —>>>http://www.thailand180.com/thaiorder.html

The Rest of the world: We are offering our book on Amazon.com, below list price and I’ll pay for the shipping within the United States! http://amzn.to/1knDPRR

Not Familiar with Our Book???

This show details the origin of 180 Books, a series of art/travel books illustrated with a circular fisheye lens. By using infographics, pictures from our THAILAND 180º book, and never seen before images from our vault, we’ll demonstrate this unique lens and present our unique books.

Also, because there’s nothing to watch on TV, here’s a trailer about our book, “THAILAND 180”

Above is an interactive map of Thailand. If you click on a marker it reveals a photo from our THAILAND 180º book and a link to our blog article about the photo. Go Ahead~ Start Exploring ~Have Some Fun!


 

Save

Save

Save

Save

You may also like...